เรื่องในช่องปาก 7 อย่างที่คุณอาจไม่เคยรู้


สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับการดูแลสุขภาพในช่องปาก ก็คือเราควรต้องรู้คุณสมบัติต่างๆของมันด้วยนะคะ ว่ามันเป็นยังไง มีลักษณะยังไงบ้าง มีการทำงานประสานกันยังไง ฯลฯ   จะได้ดูแลแล้วก็ระวังอย่างถูกวิธี...



1. ฟันของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ก็เหมือนกับรอยนิ้วมือนั่นแหละค่ะ ต่างคนต่างก็มีเป็นของตัวเอง ก๊อปปี้กันไม่ได้ แม้แต่ฝาแฝดยังไม่เหมือนกันเลย เพราะฉะนั้น บางครั้งประวัติทันตกรรมถึงเอามาใช้ยืนยันตัวบุคคล หรือร่างผู้เสียชีวิตได้

2. ฟันคนเรามี 32 ซี่
ทั้งฟันหน้า ฟันกราม รวมกันค่ะ ใช้ประโยชน์แตกต่างกัน ทั้งกัด แล้วก็บดเคี้ยวอาหารให้ละเอียด

3. เคลือบฟันคือส่วนที่แข็งแรงที่สุด
เคลือบฟัน หรือ Enamel คือผิวส่วนนอกสุดของฟัน ประกอบด้วยธาตุแคลเซียมกับฟอสเฟตเสียส่วนมาก มีคุณสมบัติคล้ายๆกับเปลือกหอยนั่นแหละค่ะ คือแข็งแรง แล้วก็ใช้ป้องกันอันตรายให้กับส่วนอื่นๆที่อยู่ภายใน แต่หมอก็ไม่ได้หมายความว่าควรชะล่าใจนะคะ เพราะต่อให้เป็นของที่แกร่งขนาดไหน ทุกอย่างก็ย่อมต้องมีจุดอ่อนของมันอยู่ดี เคลือบฟันก็เหมือนกันค่ะ ถ้าไม่ขยันแปรงฟัน ไม่ขยันดูแล ปล่อยให้มีคราบสกปรก สุดท้ายก็จะเป็นโรคฟันผุ ผุลึกลงไปจนถึงเนื้อฟันได้ค่ะ

4. ฟันเหลืองอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคฟันผุ
รูปลักษณ์ภายนอก บางทีก็บ่งบอกถึงสุขภาพภายในได้นะคะ อย่างฟันเรานี่ ถ้ามันดูเหลืองมากๆ เป็นคราบๆผิดปรกติ ควรไปให้หมอฟันตรวจนะคะ เพราะเราอาจจะกำลังเป็นฟันผุก็ได้

5. ในปากเรามีแบคทีเรียหลายร้อยชนิด
มีทั้งชนิดดี แล้วก็ชนิดไม่ดีรวมกันอยู่ หลายสายพันธุ์จนนับไม่หวาดไม่ไหว แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไง กันไว้ดีกว่าแก้นั่นแหละค่ะ แปรงฟันให้สะอาดอยู่เสมอ เจ้าแบคทีเรียตัวร้ายจะได้ทำอะไรเราไม่ได้

6. เคลือบฟันไม่สามารถเติบโต เพื่อทดแทนส่วนที่เสียไปได้
ปรกติแล้วร่างกายของคนเรา เวลามีส่วนไหนสึกหรอ มันก็มักจะซ่อมแซมตัวเองได้ ใช่มั้ยคะ? อย่างกระดูกของคนเรา ถ้าหัก หรือแตก เข้าเฝือกแล้วก็ยังสมานกันได้ แต่เคลือบฟันนี่ไม่ใช่นะคะ มันอยู่ยังไงมันก็อยู่อย่างนั้นตลอด ไม่มีการเพิ่มตัว ไม่มีการซ่อมแซม ไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไร เพราะฉะนั้นถ้าเราดูแลฟันไม่ดี ทำให้มันเสียหาย ก็คือเสียแล้วเสียเลยค่ะ

7. ปรกติแล้วร่างกายคนเราจะผลิตน้ำลายประมาณ 1 ใน 4 แกลลอนทุกวัน
น้ำลายสำคัญมากนะคะทั้งช่วยทำให้กลืนกินอาหารได้ง่าย แล้วก็ช่วยชะล้างสิ่งสกปรกออกไป เพราะฉะนั้น ควรระวังอย่าให้ปากแห้ง คอแห้งนะคะ ดื่มน้ำบ่อยๆก็ช่วยได้


______________________________

ปรึกษาหมอหลิน :
038-416-779
038-416-817
096-305-0765
Line ID : @dppattaya.com
_________________
Website:
th.dppattaya.com
www.dppattaya.com
_________________
เด็นทัลพอยท์ คลินิกทันตกรรม พัทยา
ค้นหาด้วย Google map นำทางมาถูกแน่นอน
https://goo.gl/MDzxIT
Dental point คลินิก พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหาเรื่องฟัน


"ฟันแตก ฟันร้าว" อีกเรื่องที่ต้องระวังเป็นพิเศษ!


เรื่องในช่องปาก ไม่มีเรื่องไหนที่ควรระวังมากไปกว่าเรื่องไหน ทุกอย่างสำคัญเท่าๆกัน แต่วันนี้หมออยากพูดถึงฟันแตก ฟันร้าวบ้าง เป็นเรื่องที่พบได้พอสมควร ถึงแม้ว่าหลายๆคนอาจจะไม่เคยได้ยิน หรือประสบพบเจอด้วยตัวเอง



ทำความเข้าใจกับแค่เบื้องต้นก็พอนะคะ เดี๋ยวจะยากเกินไป อย่างแรกเลย...ฟันแตก ฟันร้าวนี่เกิดมาได้จากหลายสาเหตุนะคะ เช่นหกล้ม รถชน ถูกกระแทกจากการเล่นกีฬา ไปกัดของแข็งมากเกินไป ฯลฯ ซึ่งลักษณะการเสียหายก็จะแตกต่างกันไป แต่อาการโดยพื้นฐานที่เหมือนกันก็คือ เราจะรู้สึกเจ็บๆหายๆ โดยเฉพาะเวลาที่ต้องออกแรงเคี้ยวอาหาร

หลายคนที่ไม่เคยอ่านบทความ หรือศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องฟัน อาจจะสงสัยว่า เพราะอะไร เวลาฟันแตก ฟันร้าวแล้ว เราถึงรู้สึกเจ็บ? ลองดูรูปประกอบข้างล่างนะคะ...


นี่คือภาพแสดงส่วนประกอบของฟันเรา ตั้งแต่เปลือกนอก...คือผิวฟันอย่างที่เห็นทุกวัน ไปจนถึงส่วนลึกใต้เหงือก จากตรงนี้จะเห็นแล้วใช่มั้ยคะ ว่าฟันแต่ละซี่มันมีความซับซ้อนเอาการอยู่ มันไม่ได้เป็นแค่เนื้อขาวๆอย่างที่เราคิด แต่ข้างในมันยังมีเนื้อฟัน มีโพรงประสาทฟัน มีเส้นเลือด แล้วก็มีรากฟันอีก

เพราะแบบนี้ เวลาฟันแตก ฟันร้าวถึงรู้สึกเจ็บไงคะ ลองดูจากในรูปประกอบนะ ตอนนี้ทุกอย่างยังอยู่ครบดี แต่ถ้าฟันแตก ฟันร้าวขึ้นมา มันก็จะสะเทือนถึงกันไปหมดเลย เพราะทุกชิ้นส่วนมันเชื่อมและยึดถึงกันหมด เวลาเราขยับปาก เคี้ยวอาหาร ระบบประสาทฟันก็จะได้รับผลกระทบด้วย เสียหาย ทำให้เรารู้สึกเจ็บ บางเคสถ้าโชคร้ายก็จะไม่สามารถเยียวยารักษาได้เลยค่ะ
ถามว่าฟันแตก ฟันร้าวรักษาได้มั้ย? คำตอบคือได้ค่ะ แต่ขึ้นอยู่กับอาการ แล้วก็ลักษณะการเสียหายด้วย เช่น ถ้าเกิดแตกแค่ตรงประมาณเนื้อฟัน หรือช่วงภายในโพรงประสาทฟัน อันนี้ยังพอช่วยได้ค่ะ หมอฟันก็จะทำการรักษารากฟัน(Root Canal) ให้ได้ แต่ถ้าเกิดรอยแตกลามลงไปจนถึงใต้เหงือก จนแทบจะผ่าออกเป็นสองซีกอยู่แล้ว อันนี้หมอฟันก็ทำอะไรไม่ได้ค่ะ นอกจากต้องถอนทิ้งเท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีลักษณะฟันแตกอีกอย่าง ที่หมออยากจะแถมให้เป็นเกร็ดความรู้ปิดท้ายหน่อย คือฟันที่เริ่มมีรอยแตกตั้งแต่ส่วนรากขึ้นไปค่ะ เคสนี้อาจจะพบไม่บ่อย เพราะปรกติแล้วถ้าฟันคนเราจะแตกจะร้าว ก็มักจะเริ่มตั้งแต่ผิวฟัน ลึกลงไปเรื่อยๆจนถึงราก

อย่างไรก็ตาม อาการของลักษณะแบบนี้จะแตกต่างจากแบบทั่วไปนิดหน่อย หลักๆจะรู้สึกเจ็บเหมือนกัน แต่แบบที่แตกตรงรากฟันจะมีอาการเพิ่มเติมคือ เหงือกและกระดูกที่อยู่รอบๆจะติดเชื้อ ซึ่งทางออกก็มีอยู่สองทางค่ะ คือผ่าตัดรากฟัน(Endodontic surgery) หรือไม่ก็ต้องถอนฟันซี่นั้นออกไป

______________________________

ปรึกษาหมอหลิน :
038-416-779
038-416-817
096-305-0765
Line ID : @dppattaya.com
_________________
Website:
th.dppattaya.com
www.dppattaya.com
_________________
เด็นทัลพอยท์ คลินิกทันตกรรม พัทยา
ค้นหาด้วย Google map นำทางมาถูกแน่นอน
https://goo.gl/MDzxIT
Dental point คลินิก พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหาเรื่องฟัน


อยากฟันขาวสะอาดต้องรู้! ‘อาหาร 4 อย่างที่ทำให้ฟันเป็นคราบ สกปรก’




เรื่องฟันขาว ฟันสะอาด หมอก็พูดถึงไปบ่อยพอสมควร ซึ่งส่วนมากจะเน้นประเด็นว่า ควรต้องทำยังไง ฟันถึงจะเป็นอย่างนั้น คราวนี้หมอเลยอยากจะเปลี่ยนประเด็นมาที่การป้องกันบ้าง ว่าถ้าเราอยากมีฟันที่ขาวสะอาด เวลายิ้มแล้วรู้สึกมั่นใจ เราควรจะปลูกฝังวินัยในชีวิตประจำวันยังไงดี?

แน่นอนว่าคำตอบก็คือเรื่องอาหารการกิน เพราะเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวที่สุด ลองมาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าอาหารอะไร ที่ถ้ากินมากเกินไปแล้วจะทำให้ฟันเป็นคราบ สกปรกบ้าง จะได้ควบคุมปริมาณให้เหมาะสม


1. ซอสมักกะโรนี, ซอสสปาเก็ตตี้
อาหารพาสต้าทั้งหลาย เวลากินก็ต้องราดซอสถึงจะมีรสชาติ ซึ่งซอสพวกนี้นี่แหละค่ะ มีทั้งความเป็นกรด และมักเป็นสีแสงเข้มๆ กินบ่อยๆก็ทิ้งคราบไว้บนฟันได้


2. อาหารประเภทแกง
จะแกงไตปลา, แกงเลียง , แกงเนื้อ หรืออะไรก็ตามที่มีรสเผ็ดก็ทำให้ฟันมีสีผิดเพี้ยนไปจากเดิมได้ มากด้วย เพราะเดิมทีสีของมันก็มักจะเป็นสีน้ำตาลเข้ม ส้ม แดงอยู่แล้ว


3. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
ถึงแม้ว่าประโยชน์โดยพื้นฐานของมันอาจจะมีมากมาย เช่นต่อต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิวพรรณ บำรุงร่างกายอื่นๆ แต่มันก็สามารถทำให้ฟันเป็นคราบได้นะคะ เพราะผลไม้พวกนี้สีจะสดๆ เข้มๆ อย่างเช่นบลูเบอร์รี่ก็จะเป็นสีน้ำเงินเข้มๆ แบล็คเบอร์รี่ก็จะเป็นสีดำตามชื่อมัน หรือราสเบอร์รี่ก็จะสีชมพูอมแดง


4. ชา, กาแฟ, เหล้า, เบียร์, น้ำอัดลม
นอกจากเรื่องสีที่เข้มๆแล้ว บางครั้งยังมีสภาวะความเป็นกรดด้วย(พวกเหล้า, เบียร์ น้ำอัดลม) เพราะฉะนั้นมันจะไม่ทำแค่ให้ฟันเป็นคราบสกปรกเท่านั้น แต่อาจเป็นอันตรายต่อผิวฟัน ทำให้ฟันผุด้วย

นอกจากที่หมอบอกมานี้ จริงๆก็ยังมีอย่างอื่นอีกเยอะเลย เยอะมากๆ หมอคงยกมาพูดได้ไม่หมด แต่ก็เอาเป็นว่าลองดูให้ดีๆก่อนกินนะคะ พวกอาหาร ขนมที่มีสีเข้ม สีสดๆ เช่น ลูกกวาด ช็อคโกแล็ต อะไรพวกนี้ ถ้าจะกินก็กินแต่พอดี อย่ากินพร่ำเพรื่อ คุณพ่อคุณแม่ควรเข้มงวดกับลูกสักนิด อย่าตามใจซื้อของพวกนี้ให้กินมากเกินไป ลูกจะได้รู้จักดูแลฟันตัวเองให้ขาวสะอาดเสียตั้งแต่เนิ่นๆ โตขึ้นไปแล้วจะได้ติดเป็นนิสัย ฟันจะได้สุขภาพดีทั้งภายในและภายนอก ไม่เป็นอันตราย แถมเวลายิ้ม เวลาเข้าสังคม ก็จะมั่นใจด้วยค่ะ


______________________________

ปรึกษาหมอหลิน :
038-416-779
038-416-817
096-305-0765
Line ID : @dppattaya.com
_________________
Website:
th.dppattaya.com
www.dppattaya.com
_________________
เด็นทัลพอยท์ คลินิกทันตกรรม พัทยา
ค้นหาด้วย Google map นำทางมาถูกแน่นอน
https://goo.gl/MDzxIT
Dental point คลินิก พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหาเรื่องฟัน



อาหารอะไรบ้าง ที่กินแล้วป้องกันฟันผุได้?


ฟันผุ...ภัย(ไม่)เงียบใกล้ตัวเรา อย่าปล่อยให้เกิดขึ้นเด็ดขาดนะคะ อย่ารอให้เห็นอาการแล้วค่อยไปหาหมอฟัน แต่ควรป้องกันไว้แต่เนิ่นๆจะดีกว่าค่ะ เริ่มปลูกฝังวินัยในการใช้ชีวิตตั้งแต่ตอนนี้ ง่ายที่สุดคือเรื่องการกินเลย เพราะรู้มั้ยคะ? ว่ามีอาหารบางอย่าง ที่กินแล้วลดความเสี่ยงจากฟันผุได้




ลองมาดูกันเลยค่ะว่ามีอะไรบ้าง

1. ผักหรือผลไม้ที่เคี้ยวแล้วกรุบกรอบ
เช่น แอปเปิ้ล, แครอท พวกนี้นะคะ เพราะมีเส้นใยอาหารสูงมาก คุณสมบัติของมันคือช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำลาย ให้ชะล้างคราบแบคทีเรีย และสิ่งสกปรกออกไปจากปากเราค่ะ เปอร์เซ็นต์ที่จะฟันผุก็เลยลดน้อยลง


2. อาหารจำพวกนม
อันนี้หมอขอเน้นชีสเลยค่ะ เห็นคนชอบกินกันเยอะ รู้รึเปล่าเอ่ยว่ามันไม่ได้แค่อร่อยอย่างเดียว แต่มันดีตรงที่มีน้ำตาลน้อยด้วย และที่สำคัญคือมีโปรตีนกับแคลเซียมสูงมาก ทำให้ผิวฟันเราแข็งแรงค่ะ

3. อาหารทะเล
อะไรก็ได้ค่ะ ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา พวกนี้เป็นแหล่งลีนโปรตีน(Lean Protein) ชั้นดี สำหรับใครที่ยังไม่รู้...ลีนโปรตีนจะพบได้ในเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมันนะคะ  นอกจากนี้ยังมีฟลูออไรด์ด้วย กินเข้าไปแล้วจะบำรุงให้ฟันแข็งแรง ไม่สึกหรอง่ายค่ะ

4. อาหารจำพวกโปรตีน
ถั่วก็ใช้ได้ค่ะ อันนี้ยิ่งดีด้วย เพราะถั่วเป็นของกรอบ ทำให้ร่างกายผลิตน้ำลายได้มากขึ้น หรือจะเป็นเนื้อหมู่ เนื้อไก่ เนื้อวัว ไข หรืออะไรที่ไม่ติดมัน ได้หมดค่ะ ยังไงโปรตีนก็ช่วยป้องกันฟันผุได้ระดับนึงแน่นอน

อาจจะไม่ต้องกินให้หมดตามนี้ก็ได้ เพราะบางคนอาจจะมีของที่ไม่ชอบ หรือบางคนก็เป็นภูมิแพ้(โดยเฉพาะแพ้อาหารทะเล) ก็พยายามกินเท่าที่จะกินได้แหละค่ะ กินให้มากที่สุด นอกนั้นก็อย่าลืมดูแลตัวเองด้านอื่นๆประกอบด้วยนะคะ แปรงฟัน ขัดฟัน ไปหาหมอฟัน ถ้ามีวินัย ทำทุกอย่างได้หมด โรคฟันผุก็ไม่กล้าเข้ามากล้ำกรายแล้วล่ะค่ะ


______________________________

ปรึกษาหมอหลิน :
038-416-779
038-416-817
096-305-0765
Line ID : @dppattaya.com
_________________
Website:
th.dppattaya.com
www.dppattaya.com
_________________
เด็นทัลพอยท์ คลินิกทันตกรรม พัทยา
ค้นหาด้วย Google map นำทางมาถูกแน่นอน
https://goo.gl/MDzxIT
Dental point คลินิก พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหาเรื่องฟัน



อาหารที่ช่วยแก้ปัญหากลิ่นปาก มีอะไรบ้าง?


ปากเหม็น ปากมีกลิ่น ไปอยู่ใกล้ใครคนนั้นก็คงไม่ชอบใจ ไม่ค่อยอยากคุยด้วย พอเรารู้เราก็จะเสียความมั่นใจอีก! แย่เลย

เพราะฉะนั้น วันนี้หมอเลยรวบรวมเอาอาหาร 6 อย่างที่จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องกลิ่นปากมาได้ ลองไปดูกันนะคะว่ามีอะไรบ้าง



1. อบเชย

ในเมื่อกลิ่นปากเกิดมาจากการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย อย่างแรกก็ต้องเป็นอบเชยนี่แหละค่ะที่ช่วยได้ เพราะในอบเชยมีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งคุณสมบัติของน้ำมันหอมระเหย ก็คือการฆ่าเชื้อแบคทีเรียนั่นเอง


2. ชีส

อุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่เรียกว่า เมไทโอนิน(Methionine) เพราะฉะนั้น ใครชอบกินอยู่แล้วนี่ดีเลยค่ะ สามารถดับกลิ่นปากได้ภายในไม่กี่ช.ม.หลังจากกิน


3. โยเกิร์ต

โยเกิร์ตสูตรไม่มีน้ำตาล สามารถช่วยลดปริมาณไฮโดรเจน ซัลไฟด์(Hydrogen Sulphide) ซึ่งเป็นก๊าซที่มีกลิ่นเหม็นเหมือนไข่เน่า ภายในปากเราได้ค่ะ นอกจากนี้ยังสามารถลดปริมาณเชื้อแบคทีเรียลงได้ด้วย


4. แอปเปิ้ล

จริงๆไม่ใช่แค่เฉพาะแอปเปิ้ลนะคะ แต่เป็นอาหารอะไรก็ได้ที่มีเส้นใยเยอะๆ ผักก็ได้ ขอแค่ช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำลายได้ ก็จะทำให้ปากเราสะอาด ไม่มีกลิ่นเหม็นค่ะ


5. ผลไม้จำพวกส้ม

อาหารอะไรก็ตามที่อุดมไปด้วยวิตามินซี บอกเลยค่ะว่าเจ้าแบคทีเรียในปากเรามันไม่ชอบแน่นอน แล้วถ้ามันลดปริมาณลง ปัญหากลิ่นปากเราก็จะลดลงตามไปด้วยค่ะ


6. น้ำเปล่า

ควรดื่มน้ำบ่อยๆนะคะ ดื่มเยอะๆเลย เพราะการรักษาช่องปากให้มีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ ก็จะสามารถลดปัญหากลิ่นปากลงได้เหมือนกัน


ที่มา : http://www.kidspot.com.au/health/galleries/health-galleries/8-foods-to-fight-bad-breath?image=4

______________________________

ปรึกษาหมอหลิน :
038-416-779
038-416-817
096-305-0765
Line ID : @dppattaya.com
_________________
Website:
th.dppattaya.com
www.dppattaya.com
_________________
เด็นทัลพอยท์ คลินิกทันตกรรม พัทยา
ค้นหาด้วย Google map นำทางมาถูกแน่นอน
https://goo.gl/MDzxIT
Dental point คลินิก พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหาเรื่องฟัน

รู้มั้ย?! ว่าถ้าฟันสกปรกแล้ว ปัญหาอะไรจะตามมาบ้าง





หมอว่าบางคนอาจจะยังชะล่าใจ มัวแต่สนใจกิจวัตรประจำวันอย่างอื่น แต่ไม่ใส่ใจที่จะดูแลฟันตัวเอง แปรงก็ไม่แปรง ขัดก็ไม่ขัด ไปหาหมอฟันก็ไม่ไป เพราะฉะนั้นวันนี้หมอเลยตั้งใจจะมาเตือนโดยเฉพาะ ว่าการที่เราปล่อยให้ฟันสกปรกไปนานๆจนเหลืองจนดำแบบนั้น มันจะเกิดผลร้ายอะไรขึ้นบ้าง...

1. ฟันผุ
ถ้ารู้ว่าผุแต่เนิ่นๆ และผุไม่มาก ก็ยังแก้ไขด้วยการอุดฟันได้ แต่ถ้าผุแบบกินลึกลงไปจนถึงประสาทฟัน อันนี้ต้องทำการรักษารากฟัน(Root Canal) แล้วล่ะค่ะ ง่ายๆคือต้องผ่าตัด หรือบางคนอาจจะต้องถอนฟันทิ้งไปเลย เจ็บตัวอีก ไม่คุ้มหรอกค่ะ


2. มีกลิ่นปาก
กลิ่นปากเกิดจากการสะสมของคราบอาหารและเชื้อแบคทีเรีย ถ้าไม่แปรงฟัน ไม่บ้วนปากบ้าง พอไปอยู่ใกล้ใคร ไปเข้าสังคมไปพูดคุยกับใคร ก็อาจจะถูกรังเกียจ แล้วก็เสียความมั่นใจได้ค่ะ


3. มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
ถึงจะอยู่กันคนละส่วนของร่างกาย แต่คนที่ฟันสกปรก หรือคนที่เป็นโรคเหงือก จะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจมากกว่าคนปกติค่ะ ยิ่งถ้าใครเป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว และไม่รักษาความสะอาดในช่องปากให้ดี อาการจะยิ่งแย่ลงแน่นอน


4. มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน
นี่ก็เป็นอีกโรคที่มีความสัมพันธ์ต่อสุขภาพฟัน ใครที่ปากสกปรกจนเป็นโรคเหงือก ก็จะทำให้เป็นเบาหวานได้ง่าย หรือใครที่เป็นโรคเบาหวานอยู่ ก็มีสิทธิ์ได้โรคเหงือกมาเป็นของแถมเหมือนกันค่ะ


5. มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคปอด

ในที่นี้หมอพูดถึงโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หรือ Chronic Obstructive Pulmonary Disease(COPD) ค่ะ สาเหตุก็ย้อนกลับมาที่โรคเหงือกอีกเหมือนเดิม ใครที่อาการเรื้อรังมากๆ โอกาสที่จะเป็นโรค COPD นี่มีเกินครึ่งร้อยเลยล่ะค่ะ


6. จะเป็นลมเป็นแล้งง่าย

อีกปัญหาช่องปากไม่สะอาด ก็คือเรื่องนี้แหละค่ะ ถ้าไม่สะอาดจนเป็นโรคเหงือกแล้ว ผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ชาย อาจมีโอกาสเป็นลมหมดสติได้ง่ายขึ้น เพราะว่าคนเป็นโรคเหงือกจะมีแบคทีเรียสะสมอยู่ในปากเยอะมาก ซึ่งจะส่งผลให้หลอดเลือดแดงใหญ่ตีบได้ เลือดเลยไหลเวียนไม่สะดวกค่ะ

ที่มา : http://www.smilesinthegardens.com/educational-articles/6-ways-that-dirty-teeth-will-make-you-sick/


______________________________

ปรึกษาหมอหลิน :
038-416-779
038-416-817
096-305-0765
Line ID : @dppattaya.com
_________________
Website:
th.dppattaya.com
www.dppattaya.com
_________________
เด็นทัลพอยท์ คลินิกทันตกรรม พัทยา
ค้นหาด้วย Google map นำทางมาถูกแน่นอน
https://goo.gl/MDzxIT
Dental point คลินิก พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหาเรื่องฟัน



ข้อควรรู้...สำหรับการผ่าตัดเหงือกและฟัน


การผ่าตัดเหงือกและฟัน ใครๆก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นกระบวนการรักษาที่ซับซ้อน ยุ่งยาก  เพราะฉะนั้น ถ้าเรารู้ว่าเราต้องเข้าใช้บริการ ก็ควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนถึงวันจริงนะจ๊ะ เพื่อที่การผ่าตัดจะได้ราบรื่นที่สุด แล้วตัวเราก็จะได้หายจากการพักฟื้นเร็วๆด้วย

เพราะฉะนั้นวันนี้หมอเลยเอาข้อควรรู้พื้นฐานมาให้ ทั้งสำหรับก่อนและหลังผ่าตัดเลย ลองดูกันนะคะว่ามีอะไรบ้าง แล้วอย่าลืมปฏิบัติจริงๆด้วยนะ




1. คืนก่อนวันจริง ควรจัดสรรการเดินทางให้ดีค่ะ ว่าเราจะไปกลับยังไง แต่จริงๆหมอบอกเลยว่าไม่ควรไปคนเดียว คือขาไปไม่มีปัญหาหรอกค่ะ แต่ขากลับ หลังจากผ่าตัดเสร็จแล้วเราอาจจะยังปวดระบมอยู่มาก ขับรถไม่ไหว หรือบางคนอาจจะมีอาการข้างเคียงอื่นๆตามมาได้ เพราะฉะนั้นควรพาเพื่อนไปด้วยซักคนจะดีกว่าค่ะ


2. อย่าลืมจัดเตรียมข้าวของสำหรับการดูแลไว้ที่บ้านให้เรียบร้อยด้วยนะคะ เช่นจัดเตียง วางหมอนให้สบายๆ หาหนังสือ หาแท็บเล็ต หาทีวีมาไว้แก้เบื่อด้วย เพราะบางคน หลังจากผ่าตัดมาแล้ว เวลาส่วนใหญ่อาจจะหมดไปกับการนอนพักฟื้นอยู่ในเตียงค่ะ


3. เรื่องอาหารการกินก็อย่าละเลยนะคะ หมอรู้ว่าทุกคนต่างก็มีของชอบของตัวเองเนาะ แต่เราต้องเข้าใจว่าหลังจากผ่าตัดมา แผลเรายังระบมอยู่ เนื้อเยื่อยังไม่ค่อยแข็งแรง เพราะฉะนั้น ในช่วงพักฟื้น ควรหลีกเลี่ยงพวกเหล้า เบียร์ ในช่วงอาหารรสจัด อาหารแข็งๆ แล้วก็อาหารที่ร้อนจัดไปก่อนค่ะ แล้วกินพวกโยเกิร์ต, ผลไม้ หรือของอะไรก็ได้ที่เบาๆแทนไปก่อนค่ะ


4. ปรกติแล้ว แผลผ่าตัดจะดีขึ้นภายในเวลาประมาณ 2 วัน แต่ก็ไม่แน่นอนนะคะ ขึ้นอยู่กับลักษณะกการผ่าตัดด้วย แต่ยังไงก็ตาม ในช่วงรักษาตัวหลังการผ่าตัด พยายามนอนพักผ่อนมากๆจะดีที่สุดค่ะ อย่าเพิ่งออกกำลังกายหนักๆ หรือทำกิจกรรมโลดโผนใดๆทั้งสิ้น เพราะอาจจะทำให้แผลกระเทือนแล้วรู้สึกเจ็บได้

______________________________

ปรึกษาหมอหลิน :
038-416-779
038-416-817
096-305-0765
Line ID : @dppattaya.com
_________________
Website:
th.dppattaya.com
www.dppattaya.com
_________________
เด็นทัลพอยท์ คลินิกทันตกรรม พัทยา
ค้นหาด้วย Google map นำทางมาถูกแน่นอน
https://goo.gl/MDzxIT
Dental point คลินิก พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหาเรื่องฟัน